วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

TEEN MOM การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น นายธนาธร วรรธนะอมร 53242001

 บทความวิชาการ
เรื่อง TEEN MOM การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น


วารสาร เวทีปฏิรูปเพื่อสุขภาพคนไทย บอกว่า ชาวไทยยุคมิลเลนเนียมเสียบริสุทธิ์กันเฉลี่ยที่อายุ 16 ปี เร็วกว่าสมัยคุณน้าคุณอาเมื่ออายุ 20 ปีก่อนถึง 4 ปี!! โดยที่วัยรุ่นชาย 1 ใน 3 เลือกที่จะเปิดบริสุทธิ์ให้กับสาวบริการ!!

เห็นข้อความข้างบนแล้วหลายคนคงคาดไม่ถึง เพราะโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์สูงแน่ๆ และอย่างที่รู้ดีกันว่าโรคที่น่ากลัวที่สุด นั่นคือ โรคเอดส์ รู้ไหมว่าผู้ชายที่ตายด้วยโรคเอดส์ในปี 2541 กลุ่มใหญ่ที่สุดก็อยู่ในวัยใกล้ๆ กันนี้เอง คือ 25-34 ปี คือรับเชื้อไปแล้วตั้งแต่วัยรุ่น ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเสียชีวิต

พ่อแม่ยุคใหม่จึงควรใส่ใจพูดคุยเรื่องนี้กับลูกวัยรุ่นให้เข้าใจ ...ก่อนจะสายเกินการณ์

ปัจจุบันปัญหาทางเพศในวัยรุ่นดูจะเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ วัยรุ่นชิงสุกก่อนห่ามมากขึ้น การคบกันไม่เท่าไหร่ก็มีเพศสัมพันธ์กันก่อนวัยอันควร และปัญหาต่างๆ ก็ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ท้องในวัยเรียน ทำแท้ง เรียนหนังสือไม่จบ เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวไม่เฉพาะแต่ตัววัยรุ่นเองเท่านั้น


สาเหตุของปัญหาทางเพศในวัยรุ่น

* เพราะวัยรุ่นเป็นวัยอยากลอง อยากรู้ ท้าทาย มีพลังเหลือเฟือ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศทั้งหญิงชายทำให้เกิดอารมณ์เพศขึ้นมา

* พื้นฐานครอบครัวไม่เข้มแข็ง ขาดความอบอุ่น ขาดการเอาใจใส่ใกล้ชิด หรือขาดการอบรมดูแลจากพ่อแม่ หรือการที่พ่อแม่ไม่เข้าใจพัฒนาการของวัยรุ่น ทำให้ขาดคนคอยชี้แนะเรื่องที่ถูกที่ควร

* กระแสสื่อต่างๆ ทั้งอินเตอร์เน็ต ทีวี ที่นำเสนอค่านิยมตะวันตก ทำให้วัยรุ่นได้รับสารหรือค่านิยมที่ผิดๆ

* ความเครียดจากความไม่เข้าใจของพ่อแม่ หรือเครียดจากการเรียนที่มีการแข่งขันกันสูง ทำให้วัยรุ่นหันไปพึ่งเพื่อน ซึ่งอาจชักนำไปเสพยาเสพติด และเป็นตัวการนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจมากขึ้น


การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกของวัยรุ่นหญิง

“รักนวลสงวนตัว” ภาษิตโบราณที่ปลูกฝังค่านิยมกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แทบจะใช้ไม่ได้แล้วกับวัยรุ่นหญิงสมัยนี้ นั่นเพราะผู้หญิงสมัยใหม่กล้าคิดกล้าทำมากขึ้น ค่านิยมที่เปลี่ยนไป...สามารถมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชายโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายๆ คน... และที่น่าตกใจ มีการวิจัยของนางนิรมล เมืองโสม พบว่า วัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 16-25 ปี จำนวน 20 คน ทั้งหมดเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว (คงแล้วแต่จะสำรวจเจาะกลุ่มใด ไม่ใช่วัยรุ่นทั้งประเทศไทยเป็นแบบนั้น) ทั้งกับแฟนหรือคู่รัก ด้วยความสมัครใจ ส่วนใหญ่จะมาจากครอบครัวแตกแยก แต่ทั้งนี้ สำหรับวัยรุ่นหญิงที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ชักนำให้ต้องเสียตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นคือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เหล้ายาทั้งหลาย เมื่อดื่มเข้าไปแล้วก็เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจกับเพื่อนชายด้วยกัน และที่น่าตกใจ คือ ไม่ได้มีการป้องกัน เพราะคิดว่าเพื่อนกันไม่เป็นไร ไม่ต้องใส่ถุงยางอนามัยก็ได้

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มี 2 ประเภท คือ แบบที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ แต่กลับว่ามีแอลกอฮอล์สูง เช่น เบียร์ ซึ่งเบียร์ในต่างประเทศจะมีแอลกอฮอล์เพียง 5% เท่านั้น แต่เบียร์ในเมืองไทยมีแอลกอฮอล์ประมาณ 12-15% เท่ากับว่ากินเบียร์เมืองไทย 1 ขวด ปริมาณแอลกอฮอล์จะเท่ากับกินเบียร์ต่างประเทศถึง 3 ขวด อีกประเภทคือ ไวน์คูลเลอร์ หรือไวน์สีต่างๆ ที่ผลิตออกมาเพื่อเจาะตลาดวัยรุ่นและผู้หญิง มักจะโฆษณาว่ามีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 5% และมีรสหวาน ดื่มแล้วไม่เมา แต่ในความเป็นจริง เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้วจะมีผลต่อจิตใจ ความสามารถควบคุมตัวเองและจิตใจลดลง และจะไปกระตุ้นอารมณ์เพศด้วย วัยรุ่นจึงไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลย จะดีที่สุด


แนวทางแก้ไข

* พ่อแม่ผู้ปกครอง ครู ต้องคอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ให้เขาไว้วางใจ ปรึกษาได้ พยายามปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามของไทย พร้อมทั้งให้ความรัก ความอบอุ่น ไม่ลำเอียง

* สอดส่องควบคุมการบริโภคสื่อของวัยรุ่น ชี้แนะทันทีเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติ

* ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องสรีระ ฮอร์โมน ผลของการกระทำ

* สอนให้เด็กรู้จักคบเพื่อนที่ดี ศึกษาอุปนิสัยของเพื่อนลูกด้วย

* สอนให้เด็กรู้จักควบคุมอารมณ์ทางเพศ ไม่หมกมุ่นจนเกินไป มีสติ จิตใจแน่วแน่ ไม่ปล่อยให้อารมณ์พาไป สอนให้ลูกหนีห่างยาเสพติด

* ให้เวลากับลูกอย่างเพียงพอ หรือเมื่อลูกต้องการ

* เข้าใจพัฒนาการของวัยรุ่น ไม่จู้จี้ขี้บ่นจนเกินไป


พ่อแม่แบบไหน...โดนใจวัยทีน

* ทำตัวเป็นเพื่อนกับลูก

* ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็น เพราะลูกจะเรียนรู้จากที่สิ่งพ่อแม่กระทำ ไม่ใช่แค่คำพูดสอนสั่งเท่านั้น

* รู้จักถอยบ้าง ไม่ใช่พ่อแม่ถูกเสมอไป

* หมั่นแสดงความรักและให้กำลังใจ แม้จะไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองจากลูก จะช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้น

* หาเวลาพูดคุยกับลูกอย่างสม่ำเสมอ มีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขทัน

* ตามโลกของวัยรุ่นให้ทัน

พ่อแม่แบบนี้แหละ "เท่" ที่สุดในสายตาของลูก


4 วิธีสื่อสารเรื่องเซ็กส์กับวัยรุ่น

วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ สังคม และอารมณ์ เกิดขึ้นก่อนที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางจิตใจโดยผ่านกระบวนการพัฒนา การด้านต่าง ๆ รวมไปถึงการมีเอกลักษณ์ของตนเอง การมีอิสระ เป็นตัวของตัวเอง การรู้จักและควบคุมอารมณ์ของตนเอง และการมีมโนธรรมที่เคารพกฎเกณฑ์ของสังคม ตลอดจนสามารถมีความรัก ความผูกพันกับเพื่อนและเพศตรงข้ามได้อย่างเหมาะสม

โดยส่วนใหญ่แล้ววัยรุ่นสามารถผ่านกระบวนการเหล่านี้ไปได้ด้วยดี แต่อาจมีวัยรุ่นบางส่วนที่อาจเผชิญกับปัญหาการปรับตัวเหล่านี้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ปัญหาทางด้านอารมณ์

บรรดาพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่ดูแลวัยรุ่นควรทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่างๆในช่วงวัยนี้ ทั้งด้านอารมณ์ของวัยรุ่นที่ไม่คงที่ เปลี่ยนแปลงได้ง่ายและรวดเร็ว อารมณ์วู่วาม หงุดหงิดง่าย ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนเพศ สภาพร่างกายและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อารมณ์ที่พบบ่อยเป็นเรื่องความรู้สึกวิตกกังวล กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงของ ร่างกายตนเอง อารมณ์ทางเพศที่สูงขึ้น พฤติกรรมทางเพศ รวมทั้งกลัวความเป็นผู้ใหญ่ กลัวการรับผิดชอบ การยอมรับจากเพื่อน ความขัดแย้งในการมีอิสระและขอบเขตที่เหมาะสมกับผู้ใหญ่ อาจมีอารมณ์เศร้าร่วมด้วย

เมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่นตอนกลาง-ปลาย จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ สภาพอารมณ์จะค่อนข้างราบรื่นมากขึ้นเมื่อเทียบกับวัยแรกรุ่น แต่มีความสนใจถึงความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างเพศตรงข้ามกับเพื่อน อยากรู้อยากเห็นถึงพฤติกรรมทางเพศ


เมื่อพูดถึงเรื่องเซ็กส์ ถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่แต่ก่อนมนุษย์ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองเมื่อถึงเวลาอันเหมาะ สม แต่ในยุคปัจจุบัน ยุคของสังคมออนไลน์ เราสามารถเรียนรู้ทุกสิ่งผ่านทางหน้าจอเล็ก ๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เด็กในยุคปัจจุบันจึงมีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาได้เร็วกว่าในสมัยก่อน แต่ในขณะเดียวกันเด็กก็ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะในเรื่องเซ็กส์

เราอาจเคยได้ยินเด็กชั้นประถมฯคุยกันเรื่องเพศสัมพันธ์ ชวนกันดูคลิปโป๊อย่างสนุกสนาน หรือบางครั้งเด็กก็ใช้เวลาในช่วงพักที่โรงเรียน โดยการเลียนแบบพฤติกรรมในคลิปดังกล่าว เมื่อได้ลองเล่นแล้วเกิดความสุข ความพอใจ ร่วมกับความตื่นเต้นท้าทาย เด็กอาจติดพฤติกรรมดังกล่าว เป็นเหตุให้เด็กสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก

โดยทั่วไปเด็กชายมักจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเร็วกว่าเด็กหญิงเนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศจะรุนแรงมากกว่า ตามสถิติเด็กไทยมีเซ็กส์ครั้งแรกอายุเฉลี่ย 16 ปี แต่เด็กบางคนก็มีตั้งแต่อายุ 10 ปี ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดร่วมกับความเต็มใจของตัวเด็กเอง เมื่ออารมณ์พาไปเด็กก็มักจะห้ามใจไม่อยู่ เพราะสมองส่วนหน้าคือส่วนที่ควบคุมวางแผนโดยใช้เหตุผลยังมีการพัฒนาไม่เต็มที่ จึงพบเห็นอยู่เสมอว่าเด็กวัยรุ่นมักจะทำอะไรตามอารมณ์ ความรู้สึกโดยไม่ค่อยได้คิดก่อนทำ

พ่อแม่และครูในยุคนี้คงต้องปรับทัศนคติและบทบาทเสียใหม่ เพื่อช่วยประคับประคองเด็ก ๆ ให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเสี่ยงนี้ได้ดีขึ้น โดยเริ่มจาก

1. เปลี่ยนทัศนคติของพ่อแม่ก่อน ให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องปรกติที่พ่อแม่จำเป็นต้องให้ความรู้กับลูกเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ลูกเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ในเรื่องเซ็กส์ เพราะหากเราไม่บอกในสิ่งที่ลูกสงสัย ลูกก็คงหาคำตอบด้วยตัวเองจากเพื่อนและสื่อต่าง ๆ ซึ่งอาจยิ่งเร้าอารมณ์และเกิดความเสี่ยงมากขึ้น โดยอาจเริ่มพูดคุยได้ตั้งแต่ 3 ขวบ

2. พูดคุยเรื่องเพศกับลูกอย่างง่าย ๆ โดยเริ่มจากอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ความ รู้สึก ลูกจึงไม่ควรอยู่กับเพื่อนต่างเพศตามลำพัง เพราะอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจมีปัญหาตามมาให้ลูกแก้อีกมากมาย เช่น การติดเชื้อ การตั้งครรภ์ การพลาดโอกาสในการเรียน

3. เปิดโอกาสให้ลูกซักถามสิ่งที่สงสัย และอธิบายในส่วนนั้น เช่น ทางออกที่เหมาะสมเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ ลูกอาจเล่นกีฬาหรือมีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเป็นครั้งคราว แต่ไม่จำเป็นต้องอธิบายละเอียดในเรื่องที่ลึกเกินไป เช่น เทคนิคการมีเพศสัมพันธ์


4. สร้างบรรยากาศและความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เพราะเมื่อลูกรู้สึกว่าตนเป็นที่รักและยอมรับของพ่อแม่แล้ว เขาก็จะเห็นคุณค่าของตนเองและดูแลรักษาตนเอง โดยไม่ต้องไปมีเพศสัมพันธ์กับใครเพื่อแลกกับการได้รับความรักและการยอมรับจากคนคนนั้น

การแก้ไขและป้องกันปัญหาเด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยอันสมควร

ปัจจุบันปัญหาเด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับประเทศไทย ขณะนี้ประเทศไทยมีเด็กวัยรุ่นตั้งครรภ์ถือเป็นอันดับ ๒ ในประเทศแถบอาเซียน เรื่องนี้เป็นประเด็นที่สังคมหลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจและเร่งทำการป้องกันแก้ไข โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาแล้ว การแก้ไขนั้นเป็นเรื่องที่ครอบครัวทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย จะต้องร่วมกันรับผิดชอบเยียวยาแก้ไขและหาทางออกที่เหมาะสม โดยมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดสำหรับเด็กทั้งเด็กหญิงที่กำลังตั้งครรภ์และเด็กชายที่ร่วมการก่อกำเนิดทารก รวมทั้งเด็กทารกที่กำลังจะคลอดออกมา เนื่องจากเด็กที่กำลังตั้งครรภ์ ยังจำเป็นต้องเติบโตและพัฒนาในฐานะที่เป็นเด็กและเยาวชน ในขณะที่เด็กทารกก็ควรจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเพียงพอที่จะทำให้เขาเติบโตและพัฒนาตามที่ควรจะเป็น สภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเมื่อเกิดปัญหา ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องมักหาทางออกด้วยการจับเด็กที่ตั้งครรภ์แต่งงานและอยู่กินฉันสามีภรรยากับฝ่ายชายที่มักจะเป็นเด็กด้วยกันทั้งสองฝ่าย ในความเป็นจริงการแต่งงานมิได้แก้ไขปัญหา เนื่องจากเด็กทั้งสองฝ่ายยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสามีภริยารวมทั้งการเป็นพ่อแม่ ที่สำคัญคือพวกเขายังต้องพึ่งพิงผู้ปกครองในฐานะที่ยังเป็นเด็กจึงยังไม่อาจพึ่งตนเอง ยังต้องการเวลาและโอกาสอีกมาก ในการพัฒนาตนเองขึ้นมาจนสามารถพึ่งตนเองและเป็นที่พึ่งให้แก่สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว จนสามารถก่อกำเนิดครอบครัวใหม่แยกจากครอบครัวเดิมของตนทั้งเด็กหญิงเด็กชาย รวมทั้งยังต้องรับผิดชอบร่วมกันดูแลอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังจะเกิดมา ดังนั้น ทางแก้ไขจึงควรจะพิจารณาถึง ๑. ความรับผิดชอบของทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ที่จะต้องร่วมกันรับผิดชอบอย่างไรบ้าง แม้ว่าจะไม่ได้แต่งงานกัน ในการผ่อนเบาภาระต่างๆของครอบครัวที่ตนยังต้องพึ่งพาพ่อแม่ พร้อมทั้งทุ่มเทเวลาและความสามารถในการพัฒนาตนเองด้านการศึกษาการฝึกอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องรับผิดชอบในการดูแลเลี้ยงดูทารกร่วมกันอย่างไร โดยมีครอบครัวและญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย ร่วมกันให้ความสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ช่วยถ่ายทอดทักษะที่จำเป็นต่อการเลี้ยงดูเด็กทารก หากสมาชิกในครอบครัวไม่อาจช่วยเหลือถ่ายทอดด้วยตนเอง จะต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากผู้มีทักษะเชี่ยวชาญจากภายนอก ทั้งนี้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องควรจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือแนะนำวิถีการดำเนินชีวิตของทั้งสองฝ่าย

๒. ความรับผิดชอบของทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย รวมถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ในการแก้ไขผลกระทบที่ติดตามมาจากการทำให้ตั้งครรภ์ร่วมกันอย่างไร เช่น การดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กในครรภ์และแม่วัยเด็ก การพยายามสร้างโอกาสและเงื่อนไขให้แม่วัยเด็กสามารถดำเนินชีวิตเรื่องการศึกษาการฝึกอาชีพต่อไปได้โดยไม่ติดขัด ร่วมกันแก้ไขปัญหาความกดดันจากสังคมที่มีต่อแม่ตั้งครรภ์ในวัยเด็ก การสร้างสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ทำให้แม่วัยเด็กมีความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่มีความทุกข์ความเครียดความกังวลโดยครอบครัวและญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์มีปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ความพิการทั่วไปและความพิการทางสมอง รวมทั้งทำให้การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์เฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาสมองของทารกเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้ฝ่ายชายต้องมีบทบาทสำคัญในเรื่องเหล่านี้เพราะการแสดงบทบาทหน้าที่ในเรื่องเหล่านี้ของฝ่ายชาย มีผลอย่างยิ่งในการคลี่คลายปัญหาดังกล่าวข้างต้น ๓. ความรับผิดชอบต่อตนเองที่ต้องเร่งพัฒนาตนเพื่อสามารถพึ่งตนเองโดยเร็ว รวมทั้งสามารถเป็นที่พึ่งของเด็กทารกได้ด้วย ทั้งนี้เมื่อขณะก่อนการตั้งครรภ์ เด็กทั้งคู่มีแต่ภาระเฉพาะการพัฒนาตนขึ้นมาจนสามารถพึ่งตนเองและเป็นที่พึ่งให้แก่สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว หรืออาจรับผิดชอบช่วยลดภาระต่างๆของครอบครัวเท่าที่จะทำได้เท่านั้น แต่เมื่อให้กำเนิดเด็กทารกก็จะมีภาระเพิ่มขึ้นในการดูแลและเลี้ยงดูเด็กทารก เมื่อมีภาระเพิ่มขึ้นทั้งของตนเองและของครอบครัวเช่นนี้ก็จำเป็นต้องเร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆให้หนักแน่นจริงจังมากขึ้น เพื่อลดระยะเวลาในการต้องเป็นภาระของคนอื่นๆให้สั้นที่สุดของทั้งสองฝ่าย หากยังมีความรักผูกพันระหว่างเด็กหญิงและเด็กชายไม่ใช่เพียงเรื่องความต้องการทางเพศ ย่อมถึงเวลาอันเหมาะสมที่เขาทั้งสองจะร่วมชีวิตกันเป็นสามีภริยาอย่างแท้จริง ๔. รับการบำบัดและฝึกฝนที่จะสามารถจัดการกับอารมณ์เพศได้อย่างสร้างสรรค์ แทนการมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรนั้น จะทำให้ความสามารถในการควบคุมตนเองในเรื่องเพศเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์เพศกระทำได้ยากหรืออาจไม่ได้เลย เป็นเหตุให้เด็กขาดแรงจูงใจที่จะพัฒนาตนเองในด้านต่างๆหันมาหมกมุ่นแต่เรื่องเพศ มีงานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่าเด็กที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ส่วนมากจะไม่ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาและอาชีพการงาน ทั้งนี้เพราะขาดการพัฒนาตนอย่างต่อเนื่องเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะการแต่งงานแต่วัยเด็กทำให้ขาดช่วงชีวิตในวัยเด็กขาดโอกาสพัฒนาตน จึงจำเป็นต้องได้รับการบำบัดโดยทีมจิตบำบัด เพื่อให้เด็กสามารถควบคุมความต้องการทางเพศได้ในระดับปกติ โดยเฉพาะการรู้จักวิธีการสลายความกดดันอารมณ์เพศที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดและหมกมุ่นในเรื่องเพศ ด้วยกิจกรรมสร้างความสุขและออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก การท่องเที่ยวปีนเขา เดินป่า ดูนก เล่นดนตรี เล่นกีฬา ทำงานศิลปะ ฯลฯ


การที่เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรนั้น มีสาเหตุมาจา

๑. เด็กไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่ โดยเฉพาะไม่ได้รับการฝึกฝนให้ดูแลตนเองเกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์ เช่น การรักษาความสะอาดร่างกาย อวัยวะเพศ การปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับการทำงานของฮอร์โมนเพศ เช่น เข้าใจการเกิดอารมณ์เพศว่ามีที่มาอย่างไร ปัจจัยใดบ้างที่สามารถกระตุ้นเร้าอารมณ์เพศและการไต่ระดับของอารมณ์เพศของหญิงและชายว่าแตกต่างกันอย่างไร ทั้งนี้จะทำให้เด็กสามารถป้องกันตนเองไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะถูกกระตุ้นเร้าอารมณ์ทางเพศ จนไม่สามารถควบคุมตนเองในเรื่องเพศได้ เรื่องนี้มีความมีความสำคัญยิ่งกว่าการสอนเด็กเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

 ๒. เด็กไม่มีความรักผูกพันกับพ่อแม่ ขาดความรู้สึกผูกพันเข้าถึงอารมณ์จิตใจซึ่งกันและกัน เด็กจึงไม่มีความสุขขณะอยู่ที่บ้าน รวมทั้งพ่อแม่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีเมื่อลูกอยู่บ้าน ขัดแย้งซึ่งกันและกันเป็นปกติวิสัย จนไม่สามารถสื่อสารทำความเข้าใจอารมณ์จิตใจของกันและกัน ๓. เด็กไม่รู้เท่าทันอารมณ์เพศของตนเอง ไม่ตระหนักถึงภัยทางเพศเมื่อถูกกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศ ทั้งนี้เพราะเด็กขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องปัจจัยที่สามารถเร้าอารมณ์เพศ ว่าเป็นอย่างไร ทำให้เด็กตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกระตุ้นเร้าอารมณ์เพศโดยไม่รู้เท่าทัน ทั้งนี้เด็กวัยรุ่นมักเกิดอารมณ์เพศได้ง่าย เพียงแต่คิดถึงเรื่องเพศเพราะฮอร์โมนเพศในกระแสโลหิตของวัยรุ่นมีความเข้มข้น มากกว่าวัยอื่นๆ ดังนั้นการสอนเรื่องเพศสัมพันธ์หรือส่งเสริมให้เด็กพกถุงยางอนามัยหรือกินยาคุมกำเนิด จึงเท่ากับกระตุ้นให้เด็กหมกมุ่นเรื่องเพศโดยตรง ดังนั้นการแก้ไขป้องกันปัญหาในเรื่องนี้ จึงต้องเพิ่มโอกาสให้เด็กได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์พัฒนาตนด้านต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมอาสาสมัครบำเพ็ญประโยชน์เพื่อให้เด็กสนใจความเป็นตายร้ายดีของคนอื่น รู้จักคิดเพื่อช่วยเหลือคนอื่นมากกว่าคิดถึงตนเองหรือหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องของตน ๔ เด็กไม่รู้จักวางตนหรือไม่สามารถกำหนดขอบเขตในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพศตรงข้ามให้สอดคล้องกับความสัมพันธ์ทางสังคม เช่น ไม่สามารถวางตนให้แตกต่างในการคบเพื่อนต่างเพศและคบในฐานะคนรัก ทั้งนี้เพราะผู้ปกครองมักจะห่างเหินจากลูกวัยรุ่นและไม่ได้พาลูกเข้าสังคมร่วมกับตน เช่น ไปเยี่ยมญาติหรือครอบครัวเพื่อนๆ ไปร่วมปฏิบัติกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ร่วมงานบุญ งานประเพณี งานศิลปวัฒนธรรม ทำกิจกรรมทางศาสนา ฯลฯ ทั้งที่การชักชวนเด็กไปร่วมกิจกรรมข้างต้น จะช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมโดยเฉพาะความสามารถในการวางตนที่เหมาะสมของเด็กได้เป็นอย่างดี ๕. เด็กขาดการช่วยเหลือชี้แนะจากพ่อแม่ ให้สร้างทักษะในการจัดการกับอารมณ์เพศได้อย่าง

สร้างสรรค์แทนการมีเพศสัมพันธ์ ได้แก่ การทำกิจกรรมที่ต้องออกกำลังกายและกระตุ้นให้สมองหลั่งสารความสุข เช่น การเต้นแอโรบิก การท่องเที่ยวปีนเขา เดินป่า ดูนก เล่นกีฬาสนุก ฯลฯ ทั้งที่กิจกรรมข้างต้นทำให้เด็กสามารถออกกำลังกายอย่างมีความสุข ช่วยเผาผลาญฮอร์โมนความเครียดทั้งหลายรวมทั้งอารมณ์เพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๖. เด็กวัยรุ่นมักใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่เฉยๆ การคิดถึงแรงดึงดูดทางเพศต่อเพศตรงข้ามของตนเอง คิดเกี่ยวกับเพศตรงข้าม ดูโทรทัศน์ เล่นเกม เข้า Internet ฯลฯ จึงมีผลทำให้เกิดความเครียดซึ่งจะกระตุ้นฮอร์โมนเพศและอารมณ์เพศตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชี้แนะให้เด็กแก้ปัญหาความต้องการทางเพศด้วยการสำเร็จความใคร่ตนเอง จะยิ่งมีผลกระตุ้นให้เด็กต้องการมีเพศสัมพันธ์จริงๆกับเพศตรงข้ามมากยิ่งขึ้นเพราะการสำเร็จความใคร่ตนเอง ไม่ได้ทำให้เด็กสามารถออกกำลังกายอย่างมีความสุข จึงไม่อาจช่วยเผาผลาญฮอร์โมนความเครียดหรือลดอารมณ์เพศ ทั้งนี้เมื่อเกิดอารมณ์เพศ ร่างกายจะหลั่งสารความเครียดต่างๆเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้มีพลังความแข็งแรงสำหรับการร่วมเพศ กล้ามเนื้อจะเขม็งเกลียว เกิดความตึงเครียดทั้งด้านร่างกายจิตใจ หัวใจเต้นเร็วและหายใจสั้นกระชั้น การร่วมเพศจริงๆจะมีการออกกำลังกายเผาผลาญฮอร์โมนความเครียดและสมองหลั่งสารความสุขเมื่อสำเร็จความใคร่ แต่การสำเร็จความใคร่ตนเองไม่มีกระบวนการดังกล่าว ดังนั้น การพัฒนาเด็กในด้านเพศจึงควรเน้นไปที่การดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่ การที่พ่อแม่ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพอนามัยทางเพศ การปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับการเริ่มทำงานของฮอร์โมนเพศ เข้าใจเรื่องอารมณ์เพศ ปัจจัยใดบ้างที่สามารถกระตุ้นเร้าอารมณ์เพศ การพัฒนาเด็กให้สามารถวางตัวให้สอดคล้องเหมาะสมและมีปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับเพศตรงข้าม ด้วยการพาเด็กไปเข้าสังคมต่างๆ รวมถึงการพัฒนาเด็กให้มีทักษะในการจัดการกับอารมณ์ทางเพศ ด้วยการให้เด็กได้ทำกิจกรรมพัฒนาตนที่ต้องออกกำลังกายและกระตุ้นให้สมองหลั่งสารความสุข การพัฒนาเด็กดังกล่าวข้างต้นนั้น มีความคุ้มค่าอย่างมาก ทั้งในแง่ต้นทุนที่ใช้นั้นไม่มาก อีกทั้งยังทำให้เด็กมีความสุข ครอบครัวมีความสุข เด็กมีพฤติกรรมดีทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องเพศ


กล่าวโดยสรุปแล้ว การสอนเด็กเรื่องเพศ ควรจะต้องประกอบด้วย ๑ เริ่มที่การรู้จักดูแลร่างกายจิตใจตนเองเกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์ โดยทำให้เด็กเกิดความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับตนเองโดยเฉพาะเรื่องเพศ ๒. สร้างเงื่อนไขไม่ให้เด็กวัยรุ่นหมกมุ่นกับตนเอง การรู้จักและเท่าทันอารมณ์เพศ ปัจจัยที่สามารถกระตุ้นอารมณ์เพศ การรู้จักหลีกเลี่ยงจากปัจจัย หรือสถานการณ์ที่สามารถกระตุ้นเร้าอารมณ์เพศ

๓. ถ่ายทอดทักษะทางสังคม โดยเฉพาะรู้จักในการวางตนกับเพศตรงข้าม ๔. ทักษะในการทำกิจกรรมทดแทนการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสำเร็จความใคร่ หรือการมี Safe sex ดังที่มีการรณรงค์อย่างกว้างขวางทางสังคม นอกจากนั้น การกระตุ้นส่งเสริมให้เด็กประสบความสำเร็จทางการศึกษา โดยเน้นไปที่พัฒนาการด้านการรู้จักคิดของเด็กหรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Cognitive Development จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองให้แก่เด็ก เด็กจะมีสมาธิกับการพัฒนาตนเองแทนการหมกมุ่นในเรื่องเพศ รวมทั้งทำให้เด็กรู้ใคร่ครวญไตร่ตรองชั่งผลดีผลเสียก่อนจะตัดสินใจทำอะไร รู้จักตั้งข้อสังเกตคิดวิเคราะห์หาข้อสรุปด้วยตนเอง รู้จักการวางแผนในการดำเนินชีวิตของตน ทำให้เด็กเติบโตได้อย่างมีคุณภาพไม่มีปัญหาเรื่องเพศ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น